บันทึก 29 วันจากเกาะอันดามันถึงช่างห่าย (5)

9 Jul
ถึง สองสาว ณ แดนไกล

ช่วงสองสามวันมานี้ มี้รู้สึกได้เลยว่าลูกเริ่มปรับตัวเข้ากับที่ใหม่ได้ดีขึ้นมาก เสียงแจ้วๆของลูกที่มีความสุขแฝงอยู่ในน้ำเสียงทำให้มี้มั่นใจว่าลูกสาวสองคนของมี้สามารถก้าวเดินเผชิญโลกภายนอกได้ด้วยตัวเอง มี้เห็นภาพเมล็ดพันธุ์น้อยๆลอยล่องไปเบ่งบานในต่างแดน ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกจะช่วยให้ลูกค้นหาความเป็นตัวตนของตัวเองและช่วยให้ลูกเติบโตได้อย่างกล้าแกร่ง ที่สำคัญคือ ต้องคิดดี ทำดี พูดดี เพราะสิ่งนี้จะทำให้ลูกเป็นคนดีอย่างแท้จริง

เมื่อคืนวันที่ 7 กค. น่าจะเป็นวันที่อาม่ามีความสุขอีกวันหนึ่งเพราะสมาชิกในครอบครัวเราเกือบทั้งหมดมารวมตัวกันที่บ้านอาม่าจนครัวแทบแตก ตอนนี้พี่บิ๋มดูเปล่งปลั่งสดใสมาก เจ้าน้องชายของลูกคงทานจุน่าดู เราทุกคนต่างก็เฝ้ารอวันต้อนรับสมาชิกใหม่ตัวน้อย แต่ที่น่าแปลก คือ ทำไมพี่บอยก็อ้วนเอาๆ อย่างกับว่าจะทานบำรุงน้องด้วยอีกคน (อิอิ แอบเม้า) ป้านิดก็เปลี่ยนทรงผมใหม่ เฉี่ยวจนนึกว่าเป็นพี่สาวของพี่บิ๋ม พี่นิ่มก็ยังน่ารักเหมือนเดิม ตอนนี้ผมยาวขึ้นแล้วดูดีกว่าเดือนที่แล้วเยอะ ป้าสาก็ยิ้มปลื้มกับผลงานหนังสือของพี่กอล์ฟที่ขึ้นชาร์ทหนังสือขายดีอันดับ 7 ทุกคนได้มาใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุข จำเสียงบอกลาที่ทุกคนตะโกนบอกลูกทางโทรศัพท์ได้ไหม นั่นคือความคิดถึงที่พวกเราส่งรวมกันไปให้กับลูกสองคน

เช้าวันที่ 8 กค. ลุงชาติ ป้าเกียดและพี่โอ๊ตก็เดินทางกลับกรุงเทพ บ้านก็เริ่มเงียบลงอีกครั้งแต่ป้าเกียดสัญญาว่าจะมาเยี่ยมอาม่าอีกในเดือนตุลา ตอนนั้นลูกคงได้ประลองฝีปากกับคุณป้าช่างเม้าแน่นอน

สิ่งที่มี้อยากบอกลูกในวันนี้ ก็คือ ความอบอุ่นในครอบครัวเป็นเกราะคุ้มครองใจให้เข้มแข็งและกล้าแกร่ง

Leave a comment